Page 54 - ThammaThuanKrasae
P. 54
อานาปานสติ ธรรมะทวนกระแส
ถูกก็จะมีกระแสให้รู้ว่าเกิดปราโมทย์แล้ว ส่วนทางกายก็จะเห็นว่าการ
ก าหนดลมหายใจเข้ายาว ออกยาวด้วยฉันทะและเมื่อเกิดกระแส
ปราโมทย์แล้ว ก็จะได้กายบันเทิงปรากฏด้วย กายจึงเป็นทั้งมรรค คือ
ทางเดินของจิต และก็เป็นผลที่ปรากฏขึ้นที่กาย ด้วยสติเป็น
อนุปัสนาญาณ (การตามเห็นตามล าดับ) กายก็ปรากฏ สติก็ปรากฏด้วย
เป็นตัวสติด้วยการพิจารณา เห็นกายด้วยสติด้วยญาณนั้น (เครื่องรู้)
ท่านจึงกล่าวว่าเป็น สติปัฏฐานภาวนา คือการพิจารณาเห็นกายในกาย
กระแสของการได้ปราโมทย์ที่เดินจากหทัยวัตถุ มาที่ วงปากส่วนบน ผู้ได้
ปราโมทย์จะรู้เองจากการตามดูการยิ้มในบันไดขั้นที่ ๓ โดยเห็นความ
แตกต่างจากการไม่ต่อวงจรด้วยลิ้นกับการต่อวงจรด้วยลิ้นแล้วยิ้ม ถ้า
ปฏิบัติถูกด้วยอิทธิบาท ๔ คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อ านาจของ
จิตที่เรียกว่า “ตบะ”คืออ านาจที่เกิดจากขันติ และความเพียรก็จะ
ก่อให้เกิดปราโมทย์
อุปมาเหมือนที่วงปาก คือ หลอดทดลองทางเคมี ซึ่งมีธาตุและ
สารประกอบ ที่เตรียมไว้รอพร้อมอยู่แล้ว เมื่อใส่สารประกอบอีกตัวหนึ่ง
เข้าไป (คือการเอาลิ้นแตะที่เหงือก) มันก็จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีขึ้นมา
เองตามเหตุและปัจจัยของมัน
ผู้ปฏิบัติในบันไดขั้นนี้ มีหน้าที่ก าหนดแล้วคอยพิจารณาตามดู
ด้วยสติ (การระลึกตาม) ก็จะเห็นการเกิดขึ้นของปฏิกิริยา ดังเช่น การ
๓๐