Page 106 - ThammaThuanKrasae
P. 106

ฌานและนิวรณ์
              ธรรม ๑ ๖   ประการนี้ พระสารีบุตรก าหนดรู้ได้ตามล าดับ

       ต่อเนื่องกันจนครบ ๑๖ ธรรมะ  แต่ละอย่างก็รู้แจ้งโดยตลอดสาย คือเริ่ม

       ตั้งแต่มันเกิดขึ้นตั้งอยู่ และดับไปรู้ชัดว่าธรรมที่ไม่เคยเกิดขี้นแก่ท่านก็ได้

       เกิดแก่ท่าน ที่เกิดขึ้นแล้วก็เสื่อมไป ท่านไม่ยินดียินร้าย กิเลสจึงอาศัย

       ไม่ได้ ท่านจึงพ้นไม่เกาะเกี่ยวอยู่กับธรรมนั้นๆ มีใจอันสงบปราศจาก

       กิเลสรบกวน และรู้ชัดว่าธรรม (ภาวะจิตใจ) ที่ท่านต้องสลัดเอา ที่ยิ่งไป

       กว่าที่สลัดได้แล้วนั้นยังมีอยู่

              ๒.) พระสารีบุตรพ้นจากการหลง เพลินอยู่กับปฐมฌานเข้าสู่

       ทุติยฌาน (ฌานที่ ๒) ได้ ท่านมีใจผ่องใส มีใจอยู่กับอารมณ์เดียว ไม่มี

       วิตกวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิธรรม (ภาวะจิตใจ) ในทุติยฌานได้แก่

       ความผ่องใสของใจ ปีติ, สุข, เอกัคคตา, ผัสสะ, เวทนา, สัญญา, เจตนา,

       วิญญาณ, ฉันทะ, อธิโมกข์, วิริยะ, สติ, อุเบกขา, มนสิการ  ธรรม ๑๕

       อย่างนี้ พระสารีบุตรก าหนดรู้ได้ตามล าดับครบถ้วน รู้แจ้งว่ามันเกิดขึ้น

       ตั้งอยู่และดับไป   ไม่ยินดียินร้าย มีใจสงบและรู้ชัดว่าธรรม คือสิ่งที่ต้อง

       สลัดออก ที่ยิ่งไปกว่าที่สลัดได้แล้วยังมีอยู่

              ๓.) พระสารีบุตรพ้นจากการหลงเพลินอยู่กับทุติยฌาน  เข้าสู่

       ตติยฌาน (ฌานที่ ๓) ได้ มีใจที่วางเฉย   เพราะหน่ายปีติ  และมี

       สติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลาเสวยสุขธรรมในตติยฌานมีดังนี้คือ อุเบกขา,

       สุข, สติ, สัมปชัญญะ, เอกัคคตา, ผัสสะ, เวทนา, สัญญา, เจตนา,

       วิญญาณ, ฉันทะ, อธิโมกข์, วิริยะ, สติ, อุเบกขา, มนสิการ    ธรรม ๑๖







        ๘๒
   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111