Page 46 - WipassnaCheewid
P. 46
๑. เมื่อเธอมีหน้าที่ในการอุปสมบทแก่กุลบุตร เธอก็ไม่มีความรู้ ไม่มี
ความสามารถจะแนะน ากุลบุตรให้รู้แจ้งในอธิศีล รู้แจ้งในอธิสมาธิ ให้รู้แจ้งใน
อธิปัญญา กุลบุตรคนต่อๆ ไปก็ไม่รู้แจ้งในอธิศีล ในอธิสมาธิ และในอธิปัญญา
เช่นเดียวกับเธอ
นี่คือ ภัยพิบัติ เกิดแก่ศาสนาของเรา ตถาคต ในประการที่ ๑
๒. เมื่อเพื่อนบรรพชิตขอร้องให้เธอแนะน าในการปฏิบัติวิปัสสนา
สมาธิ เธอก็ไม่มีความรู้ที่จะให้นิสัยแก่เขาให้ตรงตามหลักวิชาของวิปัสสนา
สมาธิ
นี่คือ ภัยพิบัติ เกิดแก่ศาสนาของเรา ตถาคต ในประการที่ ๒
๓. เมื่อเธอไม่รู้แจ้ง ในอธิศีล ในอธิสมาธิ ในอธิปัญญาแล้ว เธอย่อม
แสดงธรรมอย่างผิด แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันผิด เพราะภาษิตของเราจ านวนมากนั้น
กล่าวไว้ลึกซึ้งเป็นโลกุตตรธรรมและสูญญตาธรรม ซึ่งผู้รู้แจ้งในอธิศีล อธิสมาธิ
ผู้รู้แจ้งในอธิปัญญา จึงจะสามารถรู้ธรรมะอันลึกซึ้งได้
นี่คือ ภัยพิบัติ เกิดแก่ศาสนาของเรา ตถาคต ในประการที่ ๓
๔. เมื่อเธอไม่รู้แจ้งในอธิศีล ไม่รู้แจ้งในอธิสมาธิ ไม่รู้แจ้งในอธิปัญญา
เธอก็ไม่รู้แจ้งในภาษิตของเรา พวกเธอต่างพากันไปเอาใจใส่ในบทกวี
บทประพันธ์ของคนอื่นที่เขาได้ประพันธ์ไว้ มีพยัญชนะสละสลวย ไพเราะ
เพราะพริ้ง แล้วเธอน ามายึดถือเป็นภาษิตของเธอเพื่อน าไปแสดงธรรม
นี่คือ ภัยพิบัติ เกิดแก่ศาสนาของเรา ตถาคต ในประการที่ ๔
๕. เมื่อเธออายุพรรษามากจนเป็นพระเถระผู้ใหญ่ ก็จะเป็นพระ
เถระที่มักมาก ชอบประพฤติย่อหย่อน เป็นหัวหน้าที่ไม่ดีงาม ชอบละเมิดศีล
๓๒ วิปัสสนาชีวิต