Page 45 - WipassnaCheewid
P. 45
อาตมาภาพมีความเห็นว่า ถ้าพวกสวดมนต์นิยมลงมือปฏิบัติวิปัสสนา
สมาธิด้วยแล้ว ก็เท่ากับท่านถือเทียนดวงเล็กๆ แต่จุดไฟมีแสงสว่างไสว
สวยงาม น่าชม
ถ้าพวกนิยมสวดมนต์ แต่ไม่นิยมปฏิบัติวิปัสสนา ก็เท่ากับท่านมีเทียน
ดวงใหญ่โต แต่ไม่ได้จุดเทียนนั้น แสงสว่างไสวก็ไม่มีปรากฏเลย
เพราะฉะนั้น นักสวดมนต์ ควรเป็นนักปฏิบัติวิปัสสนาของ
พระพุทธเจ้าด้วย
พระอุปัชฌายะจ านวนมาก ท่านท าพิธีบวชพระ ท่านได้สอน
กัมมัฏฐานเบื้องต้นแก่พระบวชใหม่ในโบสถ์ แต่ท่านไม่นิยมปฏิบัติวิปัสสนา
สมาธิ ท่านได้ทิ้งกัมมัฏฐานไว้ในโบสถ์ท่านดีแต่บอกกัมมัฏฐาน แต่ท่านเองไม่
ปฏิบัติตรงตามที่สอนเขา ไม่จริงใจในค าสอนของตน ไม่ซื่อสัตย์ในค าสอนของ
ตน ไม่มีสัจจะต่อพระบวชใหม่ นับว่าไม่จริงใจต่อประชาชนชาวพุทธด้วย พระ
บวชใหม่ก็กระท าตามอย่าง พระอุปัชฌายะของตน โดยทิ้งกัมมัฏฐานไว้ใน
โบสถ์ ไม่ได้น าออกมาปฏิบัติเหมือนอย่างพระอุปัชฌายะ พระอุปัชฌายะของ
ชาวไทยจ านวนมากที่มีความประพฤติเช่นนี้ ซึ่งไม่ตรงกับ “พุทธประสงค์”
พระพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงภัยพิบัติที่จะเกิดแก่พระพุทธศาสนามีอยู่
๕ ประการ มีพุทธด ารัสว่า
ดูก่อน ภิกษุผู้เห็นภัยในวัฏฏะทุกข์ทั้งหลาย ถ้าพวกเธอไม่อบรมกาย
ไม่อบรมศีล ไม่อบรมสมาธิ ไม่อบรมปัญญาแล้ว พวกเธอย่อมไม่รู้แจ้งในอธิศีล
ไม่รู้แจ้งในอธิสมาธิ ไม่รู้แจ้งในอธิปัญญา
เมื่อเธอไม่รู้แจ้งในอธิศีล ไม่รู้แจ้งในอธิสมาธิ ไม่รู้แจ้งในอธิปัญญาแล้ว
ภัยพิบัติย่อมเกิดขึ้นแก่ศาสนาของเราตถาคต ๕ ประการคือ
พระอาจารย์วีระนนท์ วีรนนฺโท ๓๑