Page 115 - ThammaThuanKrasae
P. 115

กัมมัฏฐาน

                    ๑๐. อาโลกกสิณ คือ  เพ่งที่แสงสว่าง





                    ๑.  ปฐวีกสิณ

                    การท าปฐวีกสิณนั้น บุคคลผู้มองเห็นภัยในวัฏสงสาร ปรารถนา

            จะบ าเพ็ญกรรมฐานแบบปฐวีกสิณนั้น ต้องตัดเสียซึ่งความปลิโพธกังวล

            อันน้อย มีปลงผม  ตัดเล็บเสร็จแล้ว     ส าเร็จภัตกิจระงับความกระวน

            กระวาย  อันเกิดแต่การบริโภคอาหาร  แล้วเข้าสู่ที่สงัดนั่นเป็นสุข  เมื่อ

            จะถือเอาอุคคหนิมิตในปฐวีธาตุนั้น จะต้องพิจารณาดิน ที่ตบแต่งเป็น

            ดวงกสิณเป็นอารมณ์ จะพิจารณาแผ่นปฐวีลานข้าวเป็นต้น พึงก าหนดให้

            เป็นดวงกลมเท่าตะแกรงกว้างคืบ ๔ นิ้ว เป็นอันใหญ่ เท่าขอบขันเป็น

            อย่างน้อย อย่าให้ใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าขอบขัน เมื่อตั้งจิตพิจารณาไปๆ

            หลับตาก็เห็นดินที่ตนก าหนดนั้นปรากฏเหมือนกับเราลืมตาแล้ว ก็ได้ชื่อ

            ว่าอุคคหนิมิตเกิดขึ้นแล้ว ก็อธิษฐานจิตอาจจะท าให้ส าเร็จอานิสงส์  พ้น

            จากชรา มรณะ  ด้วยการปฏิบัติเป็นแน่แท้  เมื่อเสพปฏิภาคนิมิตนั้นด้วย

            อุปจารสมาธิ  จิตเสพเนื่องๆ ต่อไปก็จะส าเร็จขั้นปฐมฌาน ทุติยฌาน

            ตติยฌาน จตุตถฌาน ปัญจมฌาน โดยล าดับๆ



                    แต่การที่บุคคลจะส าเร็จได้โดยง่าย  นั้น จะต้องเคยเป็นผู้ได้สร้าง

            วาสนาบารมีมาก่อนในอดีตชาติ  เช่นเคยได้บวชในพระพุทธศาสนาหรือ

            เคยบรรพชาเป็นดาบส  ได้เจริญฌานส าเร็จด้วยการพิจารณาปฐวีกสิณ







                                                                            ๙๑
   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120