โครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ

ระยะเวลาของโครงการ

โครงการเริ่มต้นทุกวันที่ ๑ ถึงวันที่ ๘ ของทุกเดือน ตลอดทั้งปี โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องอยู่ปฏิบัติธรรมครบตลอดทั้ง ๘ วัน และต้องสมัคร/ลงทะเบียนภายในวันที่ ๑ ไม่เกิน ๑๒.๐๐ น. เท่านั้น ทั้งนี้ทางวัดฯสงวนสิทธิ์ ไม่รับผู้ปฏิบัติธรรม เข้า-ออกระหว่างโครงการฯ

การลงทะเบียน

ผู้ที่ประสงค์จะเข้าปฏิบัติธรรม ให้ลงทะเบียนได้ ในวันที่ ๑ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ณ ศาลาปฏิบัติธรรม ทั้งนี้ การลงทะเบียนจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่ลงลายมือชื่อในใบลงทะเบียนแล้ว จากนั้นให้นำสัมภาระเข้าเก็บยังที่พักที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ โดยแยกที่พักระหว่างหญิงและชาย ซึ่งไม่สามารถเลือกที่พักเองได้ และสงวนสิทธิ์การจองที่พักล่วงหน้า

สถานที่

ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่อันเป็นสัปปายะ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเรียนรู้ ดูกายใจ ได้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เกิดสภาวะธรรม ที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ได้เข้าถึงความจริงแห่งสภาวะจิต โดยจิตใจที่มุ่งมั่น น้อมนำมาดีแล้ว มีสถานที่อันเหมาะสม ได้พบครูบาอาจารย์ พระวิปัสสนาจารย์ ผู้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรม คอยชี้แนะแนวทางให้กับผู้ปฏิบัติธรรมอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง

การปฏิบัติธรรม

ผู้ปฏิบัติธรรมจะได้รับเมตตาจากพระวิปัสสนาจารย์ ในการส่งอารมณ์กรรมฐาน นำเดินจงกรมระยะที่ ๑ ตามเวลาที่กำหนด จากนั้นจะสอนการนั่งสมาธิภาวนา โดยเน้นที่การกำหนดภาวนาแบบ พองหนอ ยุบหนอ ส่วนท่านใดจะภาวนาแบบพุทโธ หรือ แบบสัมมาอรหัง ก็ได้เช่นกัน และยังสามารถสอบถามสภาวธรรมกับหลวงพ่อ หรือพระวิปัสสนาจารย์ได้ ไม่ว่าจะภาวนาในรูปแบบใด

การสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น

เป็นรูปแบบหนึ่งของการเจริญสติ ที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมเกิดสมาธิ มีใจจดจ่ออยู่กับบทสวดมนต์ ซึ่งการทำวัตรนี้ จะมีพระอาจารย์นำสวดมนต์บทต่างๆทุกครั้ง

ผู้เข้าปฏิบัติธรรมต้องเข้าร่วม สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น ตามเวลาที่กำหนดทุกครั้ง ยกเว้นกรณีที่จำเป็นจริงๆซึ่งต้องเรียนให้พระอาจารย์ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่รับทราบ

การฟังธรรมบรรยาย

ในช่วงค่ำเวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น.ถึง ๒๑.๐๐ น. ทุกวันตลอดโครงการ ทุกท่านจะได้รับฟังธรรมบรรยาย จากหลวงพ่อหรือพระวิปัสสนาจารย์ โดยธรรมบรรยายนั้นๆ จะเกี่ยวเนื่องกับสภาวการปฏิบัติ เพื่อให้คำชี้แนะ และเป็นแนวทางในการเจริญสติ การแก้ไขอารมณ์กรรมฐาน หรืออื่นๆ ตามสภาวธรรมของผู้ปฏิบัติในแต่ละวัน

การสอบอารมณ์

เพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมที่เกิดสภาวะธรรมที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ได้มีแนวทางเจริญสติที่ถูกต้อง หลวงพ่อได้เมตตาเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติธรรม สอบถาม บอกเล่าถึงวิธีการ อาการ และ/หรือความรู้สึกของตนในระหว่างการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินจงกรม การนั่งสมาธิภาวนา หรือบอกเล่าถึงสภาวธรรมต่างๆที่เกิดขึ้น หลวงพ่อจะให้คำแนะนำถึงวิธีการปฏิบัติต่อสภาวธรรมนั้นๆ ให้ทุกท่านได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องและพัฒนาส่วนที่ยังขาดอยู่ให้เกิดความสมดุลย์กัน

การปิดวาจา

เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้เข้าถึงสภาวธรรม อันเป็นสภาวะภายในของตน ให้ทุกท่านได้ศึกษาสภาวอารมณ์เฉพาะของตนเองที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งเป็นคุณประโยชน์สูงสุดกับผู้ปฏิบัติธรรมเอง ดังนั้นหลวงพ่อจึงกำหนดให้ผู้ปฏิบัติทุกท่าน ทำการ สมาทานปิดวาจา งดการสนทนาต่างๆ ยกเว้นกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลหรือพระวิปัสสนาจารย์เท่านั้น ดังนั้นผู้ที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องเตรียมความพร้อมที่จะปิดวาจาด้วย,การสมาทานปิดวาจานี้ เป็นการกล่าวให้สัจจะ ต่อหน้าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และพระวิปัสสนาจารย์ ดังนั้นผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องรักษาสัจจะนี้  โดยความหมายของการปิดวาจานั้น นอกจากการงดการพูดคุยแล้ว ยังรวมถึงการติดต่อสื่อสารด้วยสัญญาณ ท่าทางหรือเขียนข้อความผ่านสือและเทคโนโลยีต่างๆ อันจะเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้ปฏิบัติธรรม ส่งจิตออกข้างนอกที่ไม่ใช่เรื่องภายในกายและในจิตใจของตนเอง ควรงดเว้นทั้งสิ้น

ระเบียบการเข้าปฏิบัติธรรม

การเข้าปฏิบัติธรรม โครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ ณ วัดป่าเจริญราช ทุกวันที่ ๑ - ๘ ของเดือน ตลอดทั้งปี

ก่อนการลงทะเบียนเข้าปฏิบัติธรรม ทุกท่านต้องศึกษาและยอมรับกฎระเบียบของวัด ดังนี้

  • คุณสมบัติของผู้เข้าปฏิบัติธรรม

    • ต้องเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ไม่วิกลจริต เป็นโรคลมชัก หรือลมบ้าหมู

    • ต้องเป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่พิการอวัยวะที่เป็นเหตุให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และไม่เป็นโรคร้ายแรงหรือโรคติดต่อที่สังคมรังเกียจ

    • ไม่เป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษทุกชนิด เช่น ยานัตถุ์ บุหรี่ สุรา ยาบ้า หรือยาเสพติดอื่นๆ

    • ต้องไม่เป็นผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง

    • รับผู้ปฏิบัติธรรมอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป

    • ทางวัดไม่อนุญาตให้เข้าปฏิบัติธรรมเพื่อแก้บน

  • กฏระเบียบของการเข้าปฏิบัติธรรม

    • ต้องอยู่ปฏิบัติธรรมครบทั้ง ๘ วัน ตลอดโครงการ

    • รักษาศีล ๘ อย่างเคร่งครัด สำรวมกาย วาจา ใจให้เป็นปกติตลอดเวลา โดยใช้หลักสติปัฏฐานสี่ ให้ความเคารพและเชื่อฟังคำแนะนำของพระอาจารย์

    • หากมีความสงสัยในการปฏิบัติธรรม ให้สอบถามสภาวธรรมกับพระวิปัสสนาจารย์เท่านั้น

    • งดพูด - คุยโทรศัพท์ ตลอดระยะเวลาในโครงการ หากจำเป็นให้ขออนุญาตพระอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่เป็นกรณีไป

    • ห้ามก่อเหตุทะเลาะวิวาท ด่าทอ พูดจาเสียดสี หรือแสดงกิริยาอาการอื่นใดที่ไม่เหมาะสม หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทั้งคู่กรณีต้องออกจากวัดไปโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น

    • ผู้ปฏิบัติธรรมต้องลงทำวัตร และปฏิบัติธรรมพร้อมกันที่ศาลาปฏิบัติธรรม ตามเวลาที่กำหนดไว้ หากมีเหตุจำเป็นสุดวิสัย ที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ ให้แจ้งพระอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่ทราบทุกครั้ง

    • ไม่อนุญาตให้ผู้ปฏิบัติธรรม เข้าพบหลวงพ่อที่ห้องรับแขก หรือออกนอกบริเวณวัดโดยไม่เรียนให้พระอาจารย์ หรือไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบโดยเด็ดขาด

  • สิ่งที่ต้องจัดเตรียม เพื่อการเข้าปฏิบัติธรรมในโครงการ

    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, บัตรข้าราชการ, หนังสือเดินทาง อย่างใดอย่างหนึ่ง

    • ของใช้ส่วนตัว เช่น ยาประจำตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ผ้าเช็ดตัว รองเท้า(ควรเรียบร้อยเหมาะกับสถานที่) งดเว้นการสวมใส่เครื่องประดับต่างๆ,งดการใช้เครื่องปะทินผิวทุกชนิด, ชุดชั้นในควรเป็นสีที่ใกล้เคียงกับชุดปฏิบัติธรรม

    • ชุดปฏิบัติธรรม ผู้ปฏิบัติธรรมควรจัดเตรียมชุดปฏิบัติธรรมของตนเอง ให้ครบตามจำนวนวันที่ปฏิบัติ งดการซักผ้า(หากไม่จำเป็น), ชาย กางเกงขายาวสีขาว เสื้อแขนสั้นสีขาว, หญิง เสื้อแขนยาวสีขาว ผ้าถุงสีขาว กางเกงขายาวสีขาว สไบสีขาว ควรสวมเสื้อซับใน รวบผม ให้เรียบร้อย

    • ผ้าห่ม

  • ตารางเวลา

วันที่ ๑

  • เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ลงทะเบียน เข้าที่พักและรับประทานอาหารกลางวัน

  • เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๓.๓๐ น. ปฐมนิเทศชี้แจงระเบียบปฏิบัติ

  • เวลา ๑๓.๓๐ - ๑๖.๐๐ น. พิธีสมาทานศีล ๘, สมาทานพระกัมมัฏฐาน และวิธีปฏิบัติพระกรรมฐาน

  • เวลา ๑๗.๓๐ - ๑๙.๔๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

  • เวลา ๒๐.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. ฟังธรรมบรรยาย ภาคปฏิบัติ โดย หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท หรือ พระวิป้สสนาจารย์

วันที่ ๒

  • เวลา ๐๔.๐๐ น. สัญญาณระฆัง สรีระกิจ

  • เวลา ๐๔.๓๐ - ๐๖.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

  • เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๐.๓๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

  • เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

  • เวลา ๑๗.๓๐ - ๑๙.๔๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

  • เวลา ๒๐.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. ฟังธรรมบรรยาย ภาคปฏิบัติ โดย หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท หรือพระวิป้สสนาจารย์ ,พิธีสมาทานปิดวาจา

วันที่ ๓ ถึง วันที่ ๗ ไม่มีการสวดมนต์ทำวัตรเช้า - เย็น โดยให้ปฏิบัติธรรมอย่างเดียว และฟังธรรมบรรยาย ในเวลา ๒๐.๐๐น.

วันที่ ๘ (วันปิดโครงการ)

  • เวลา ๐๔.๐๐ น. สัญญาณระฆัง สรีระกิจ

  • เวลา ๐๔.๓๐ - ๐๖.๓๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

  • เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๐.๓๐ น. พิธีให้โอวาท, ผู้ปฏิบัติธรรมกล่าวแสดงความรู้สึก(เปิดใจ), พิธีลาศีล ๘ สมาทานศีล ๕, ขอขมาศีล ขอขมาธรรม ขอขมาพระกรรมฐาน, พิธีมาลาบูชาครู, พิธีถวายพระพร

  • การรับประทานอาหาร

    • ผู้ปฏิบัติธรรม พร้อมกันในที่ ที่ทางวัดได้จัดเตรียมไว้สำหรับการรับประทานอาหาร เช้าเวลา ๐๖.๓๐ น. กลางวัน เวลา ๑๐.๓๐ น. และรับน้ำปานะ เวลา ๑๖.๐๐ น. -

    • ก่อนถึงเวลารับประทานอาหาร ผู้ปฏิบัติธรรมควรช่วยกันจัดที่นั่ง สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน

    • ต้องเดินตักอาหารด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้ามพูดคุยกัน

    • ขณะนั่งรอ และรับประทานอาหาร ผู้ปฏิบัติธรรมควรงดพูดคุย หรือแสดงอาการใด ๆ ที่ไม่สำรวม

    • เมื่อเสร็จจากการรับประทานอาหารแล้ว ผู้ปฏิบัติธรรมควรช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ และทำความสะอาดภาชนะให้เรียบร้อย ไม่ควรปล่อยทิ้งให้เป็นภาระของบุคคลอื่น

  • ข้อปฏิบัติในวันกลับบ้าน

    เมื่อครบกำหนดการปฏิบัติธรรม ต้องเก็บของใช้ส่วนตัวกลับให้หมด ห้ามทิ้งไว้ให้เป็นภาระผู้อื่น หากทิ้งไว้ ทางวัดจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น และควรช่วยเหลือทำความสะอาดที่พัก ศาลาปฏิบัติธรรม ห้องน้ำ เป็นต้น

- ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติธรรมท่านใด ไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ ทางวัดจะกล่าวตักเตือนให้ทราบก่อน หากยังไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้อีก ทางวัดขออนุญาตให้ท่านกลับไปปฏิบัติฯที่บ้าน ทั้งนี้เพื่อความผาสุขของผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน ที่ตั้งใจเข้าปฏิบัติธรรม และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของการอยู่ร่วมกัน

 หมายเหตุ - ผู้ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ หรือสาธุชนผู้ใจบุญทั้งหลาย สามารถร่วมทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา โดยแจ้งความจำนงต่อเจ้าหน้าที่ประจำโครงการเท่านั้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

โทรศัพท์ 0-2995-2112 แฟ็กซ์ 0-2995-2477 
หรือสอบถามโดยตรงได้ที่ 
อาจารย์ดรุณี พัวพันธ์สกุล (แม่น้อง) โทร.085 666 4898 

หรือ Inbox สอบถามได้ที่ facebook:ศิษย์วัดป่าเจริญราช